วันศุกร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2555

หุ้นแนะนำวันนี้ PTTEP

         
          โห..จั่วหัวชื่อเรื่องกันแบบดุเดือดมาก ช่างไม่กลัวหน้าแหกเอาซะเลย555 แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้วครับ ขนาดเซียนหุ้นที่เขาคร่ำหวอดกันมานานในตลาดยังเคยปากกาหักเพราะหุ้นตกราคากลับทิศเลย ถ้าเทียบแล้วผมก็แค่นักศึกษา ม.ต้น จะไปกลัวหน้าแหกกันทำไม ใช่มะ (ทายถูกทุกตัว เขาก็รวยกันทั้งบ้านทั้งเมืองแล้ววว 555)
          วันนี้พอดีเปิดกราฟกลับมาดูหุ้น PTTEP ที่ครั้งนึง อยากเข้าซื้อมากแต่เข้าไม่ทัน ตกขบวนเที่ยวสุดท้ายซะงั้น วันนี้พอเปิดดู “นั่นแน่...มีลุ้น”  ทำไมผมถึงบอกว่ามีลุ้น เรามาดูกันเลยครับ

          ผมมาลองเปิด Chart  WEEK ดู ก็พบอย่างนี้ครับ...แวบแรกเหมือนเห็น Indicator เขาสะกิดเรียกให้มอง...อย่างที่ผมเคยบอก ผมชอบ MACD (กราฟช่องที่ 3จากบน) ที่กำลังโผล่พ้นผิวน้ำครับ มันเป็นอะไรที่สร้างความประทับใจให้ผมตอนหัดเล่นหุ้นใหม่ๆ แถมยังตัดเส้น EMA(สีขาวปะ)ขึ้นด้วย นี่มันปลาโลมาโผขึ้นผิวน้ำมาหายใจชัดๆ (ในช่วงสั้นๆ นะ)....แถมยังมี RSI (กราฟช่อง 2 จากบน) วิ่งอยู่บนเส้นปะ และอยู่ในช่วงที่ไม่เข้าเขตมากไปน้อยไปอีก....อย่างนี้ต้องลงdetail ครับ มา..เรามาดูกราฟราคากัน   


          อ้าวว..นี่มัน Head and Shoulder Top นี่ (ไม่ใช่ยาสระผมนะครับ) คือ กราฟมันจะดูเหมือนมี 3 ยอด คือ ไหล่ซ้าย, ศีรษะ, ไหล่ขวา...เอาเป็นว่ามองให้เหมือนละกัน...รูปแบบนี้มักเกิดในช่วงราคาสูงสุดในช่วงนั้นๆ ผมเลยมานั่งตีเส้น Neck Line ดูครับ...เขาบอกว่าเมื่อราคาตกเกินเส้น Neck Line ลงมา ราคาจะกลับทิศเป็นแนวโน้มขาลง โดยราคาจะตกลงยาว กะเป็นช่วงได้เท่ากับความสูงของศีรษะกับเส้น Neck Line หรือในบางทีอาจจะตกรูดลงไปจนถึงฐานก่อนที่ราคาจะวิ่งขึ้นด้วยซ้ำ
          แต่คราวนี้ผมจะบอกอย่างนี้ครับ คือ กราฟเทคนิคไม่จำเป็นต้องใช้กับแนวเทคนิคเสมอไป เพราะรอบนี้ผมจะนำมาใช้กับแนว VI บ้าง (ขอยก Credit ให้คุณปุย (wave riders แห่ง stock2morrow ครับ   จริงๆเขาไม่ได้มานั่งสอนผมโดยตรงหรอกครับ แต่คุณปุยเคยเขียนบทความไว้ในเว็บๆนึง แล้วผมอ่านเจอเข้าในช่วงที่ผมมืดมนและยังไม่ประสา555) กลับมาต่อกันครับ  คือ ผมปรับเวลา Chart เป็นแบบ WEEK ครับ และ
-ใช้เส้น EMA15(สีน้ำเงิน) เป็นตัวจับราคา ตราบใดที่ราคายังวิ่งอยู่บนเส้น EMA15ได้ ก็ถือไว้ครับ แต่ถ้าราคาตกใต้เส้นเมื่อไหร่ ก็ให้ลดพอร์ทไว้ซะหน่อยก็ดีครับ
-โดยผมจะใช้เส้น EMA35(เส้นสีแดง) เป็นตัว Stop Loss คือขายออกทั้งหมดทันที ถ้าราคามันตกลงมาเกินเส้นนั้นครับ
***แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เห็นอะไรมั้ยครับ เส้น EMA15 กำลังตัด EMA35 ขึ้น...ตามที่ผมคาด งานนี้ถ้าตัดขึ้นได้ก็ยาวครับ เหอๆๆ
          กลับมาต่อเส้น Neck Line ที่ผมตีไว้ครับ ตอนนี้มันกลับมาจากการทำหน้าที่เป็น “แนวรับ” แถวๆ บ่า,คอ,ไหล่ (555พูดเป็นร้านนวดเชียว) กลับมาทำหน้าที่เป็น “แนวต้าน”ของราคาแทนครับ ดังนั้น ตอนนี้เราต้องลุ้นว่าขอให้ราคามันขึ้นทดสอบและฝ่าเส้นนี้ขึ้นไปให้ได้
          “ถ้าขึ้นไปได้ ผมนอนกอดยาวเชียวละ 5555”



วันพุธที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2555

วิเคราะห์หุ้นแนะนำ TVO ด้วยกราฟ

                                
     














     ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนว่า วิธีการเล่นหุ้นของแต่ละคนแตกต่างกัน บางคนเริ่มจากเล่นน้อยๆหัดได้หัดเสียกันไปก่อน ดังนั้นความระแวดระวังภัยจึงมีในระดับหนึ่ง ถึงหุ้นตกก็ไม่เจ็บตัวมาก...ส่วนผมจะเล่นหนักครับ (บางคนไม่เห็นด้วย ก็นานาจิตตังครับ) แต่ก่อนที่ผมจะเลือกเล่นหุ้นตัวไหน ผมจะวิเคราะห์ทั้ง 2แนวครับ เขาเรียกแนวผสมผสาน อิ อิ  ผมใช้วิถีของทั้ง VI และ Technical คือ ดูทั้งกราฟเทคนิค ดูทั้งพื้นฐานหุ้น (fundamental) ดูมันอยู่นั่นแหล่ะ เพราะฉะนั้นไอ้ที่จะไปเล่นแบบ Daytrade ผมขอบายคับ เพราะยอมรับจริงๆว่าไม่เร็วพอ
          ที่เกริ่นมาเพราะวันนี้ผมมีตัวอย่างการวิเคราะห์หุ้นด้วยโปรแกรมMETASTOCKมาฝากกันอีกแล้วคับ หุ้นที่ผมเลือกมาวันนี้เป็น TVO (น้ำมันพืชไทย) จะว่าไปก็เสียวๆเหมือนกันนะคับ เซียนหลายคนปากกาหักกันมานักต่อนักแล้ว ไอ้พวกออกมาบอกว่าตัวนี้ไปได้สวย หุ้นตัวนี้พุ่งแน่อะไรเงี้ย....แต่....ผมไม่ใช่เซียนคับ ผมเป็นเพียงผู้ลงทุนรายย่อย(แต่ไม่ยับ) เพราะฉะนั้นผมไม่กลัวหน้าแตก555   


          มาเริ่มกันเลยคับ (สามารถคลิ๊กที่รูปเพื่อขยายดูได้นะคับ) กราฟ Stoch หักหัวขึ้นคับ แถมอยู่ในเขตไม่สูงไม่ต่ำเกินไป (เกิน 80 ไม่แนะนำให้ซื้อคับ เพราะหุ้นเตรียมราคาลงแล้ว ต่ำกว่า 20 ก็ไม่แนะนำคับเพราะถึงแม้ราคาจะถูกเราก็ควรรอมันตัดเส้น 20 ขึ้นก่อน) ดังนั้นระหว่างที่ยังอยู่ในเขตระหว่าง 20-80 เราก็มาดูการตัดกันของเส้น Stoch กับเส้น Moving Average (เส้นปะนั่นแหล่ะคับ)ไปพลางๆ  ถ้าตัดขึ้นก็ซื้อได้ ดังนั้นควรซื้อมั้ยครับ...คำตอบคือควรครับ


          มาต่อที่ RSI เหมือนเส้น Stoch คับ...มีเส้นแบ่งเขต คือ เกินเส้น 70 ก็แปลว่าซื้อกันมากเกินไปเตรียมลง  ถ้าต่ำกว่าเส้น 30 ก็เข้าเขตขายกันมากเกินไป ดังนั้นในตอนนี้ให้ดูที่เส้นคับ  หักหัวขึ้นก็แปลว่าเป็นสัญญาณที่ดีคับ


          ต่อกันด้วย MACD ตัวนี้ผมชอบเป็นพิเศษนะ คนอื่นว่าไงไม่รู้ แต่ผมว่ามันค่อนข้างเชื่อถือได้เลยทีเดียว หุ้นตัวที่ทำเงินให้ผมก่อนหน้านี้ ก็เพราะเห็นสัญญาณจาก macd เนี่ยแหล่ะคับ....ในตัวนี้ถ้าดูเป็นรอบใหญ่ ผมถือว่ามันจมอยู่ในดินมานานเลยทีเดียวคับ (ต่ำกว่าเส้นศูนย์) แต่ภาพนี้ผมซูมให้ดูกันชัดๆ...หลังจากมันโผล่พ้นดิน ผมว่ามันเป็นสัญญาณซื้อที่ดีคับ และที่สำคัญดูมันมีแนวโน้มหักหัวขึ้นตัดเส้นค่าเฉลี่ยของมันเองซะอีก (ตัดเส้นปะขาว) ผมเลยรู้สึกว่าหุ้นตัวนี้เล่นยาวได้ ไม่ต้องมาคอยเปิดเช็คทุกวัน สรุปแล้วเห็นสัญญาณดีมาตั้ง 3 ตัว ควรซื้อมั้ยคับ..................ใครบอกไม่ควร เลิกเล่นหุ้นคับ ไปแทงหวยดีกว่า555


          Last but not least คับ...ตัวกราฟราคา...จริงๆดูภาพใหญ่มันเป็นเทรนขาลงนะคับ แต่อย่างที่บอกคับ ผมเล่นแบบผสมผสานไม่ได้คิดถือเป็น 3-4 ปีขนาดนั้น...ในจุดนี้ผมเห็นตัวราคาขยับขึ้นมายืนอยู่บนเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันได้ (ema25 เส้นสีน้ำเงินนั่นแหล่ะคับ) หลังจากพยายามขึ้นยืนอยู่หลายวัน แถมลงมาทดสอบถึง 2 ครั้งละ ผมว่าผมไม่น่ามองพลาดนะคับ แถมการแกว่งตัวของกราฟก็ยังแกว่งทรงตัวให้เห็นอยู่ แถม indicator สนับสนุนซะทุกตัวอย่างนี้  อย่างนี้ควรซื้อมั้ยครับ................ใครยังบอกว่า ”ไม่ควร” โทรมานะคับผมว่าคุณมีอะไรคาใจกับผมละ555ล้อเล่นนะคับ อย่างที่บอกคับ การเล่นหุ้นมันก็นานาจิตตัง ใครเห็นเป็นอะไรก็รับมือกับมันแนวนั้นคับ
          ส่วนผม..ซื้อเก็บไว้ในพอร์ตเรียบร้อยแล้ว เพราะอย่างที่บอกไว้ตอนต้นครับว่าก่อนซื้อ ผมก็saveตัวเองไว้แล้วโดยการไปดูพื้นฐาน แทบทุกงบเรียบร้อยแล้ว ถ้าสนใจว่าผมดูยังไงตามไปดูได้คับที่  http://www.stockmanday.blogspot.com/2012/01/vi.html

    “อยากเล่นหุ้น”เป็นต้องทำยังไง..ตอบกันง่ายๆเลยนะครับ ต้องศึกษาและมีเครื่องมือครับ



          นี่เป็นเพียงหนึ่งตัวอย่างของกราฟที่รังสรรค์มาจากโปรแกรม METASTOCK ครับ..อย่าเพิ่งออกอาการงงกันครับ จริงๆกราฟพวกนี้เหมือนเพศตรงข้ามที่เราเพิ่งรู้จักนั่นแหล่ะครับ เจอกันใหม่ๆจับต้นชนปลายไม่ถูก ใครที่ยังไม่เคยเห็นกราฟแบบนี้  พอเห็นครั้งแรกก็ต่างมุมมองกันไป บางคนก็ดูว่ากราฟนี้สวย บางคนว่ามันดูลึกลับน่าค้นหา บางคนหนักเข้าก็ว่าดูซับซ้อนไม่น่าคบ แต่ถ้าลองรู้จักหรือได้คบกันไปนานๆแล้วจะเห็นว่า เขาหรือเธอคนนี้ปากตรงกับใจมากนะครับ คิดยังไงก็บอกอย่างนั้น แต่จะเกิดเรื่องก็ต่อเมื่อเราตีความหมายผิดเอง ถึงบอกไงครับว่าบางคนชอบก็คบต่อ  บางคนไม่เข้าใจเธอก็เลิกคบ โดยไม่มองว่าจริงๆแล้วปัญหาอยู่ที่ตัวเองซะมากกว่า เหอๆ

          กลับมาที่โปรแกรม METASTOCK ต่อครับ  จะบอกว่าโดยหลักๆแล้ว หุ้นหนึ่งตัวเราก็จะเรียกดูกราฟอยู่ 3-4กราฟครับ  อย่างหุ้นตัวนี้ CSL “บริษัท ซีเอส ล็อกซอินโฟ จำกัด (มหาชน)” จริงๆมันเอ่ยชื่อได้มั้ยเนี่ย(-..-“) (ไม่ค่อยรู้เรื่องกฎหมายคับ รู้จักแต่กดซื้อกดขาย..เอ้า!นอกเรื่องอีกละ)มาต่อกันครับ....Chart บนสุด เรียกว่า Stochastic ครับ.. ถัดลงมาก็ RSI..ถัดลงมาอีกก็ MACD ส่วนล่างสุดก็ กราฟราคาของหุ้นCSLนั่นแหล่ะครับ
      คราวนี้จะมาบอกความสัมพันธ์ของทั้ง 4 ตัวให้ฟัง 



          ตัวแรกเรียกสั้นๆว่า Stoch ละกันคับ....ตัวนี้เนี่ยจะมีความรู้สึกไวมาก ถ้าให้เทียบก็เหมือนพวกรปภ.รอบๆบ้านเรานั่นแหล่ะครับ ส่งสัญญาณเตือนกันไวมาก เห็นคนชุมนุมกลุ่มใหญ่ๆเดินมาตามถนนก็เตือนแล้ว “เตรียมอพยพครับนาย”(ขายหุ้นทิ้ง) พอซักพักก็ “ผ่านไปกันหมดแล้วปลอดภัยแล้วครับนาย”(ก็ซื้อหุ้นกลับ)  เหมาะจะใช้เป็นสัญญาณเตือนซื้อ-ขาย ระยะสั้นหรือปานกลาง จนบางครั้งทำให้เราซื้อขายกันไวเกินไป สรุปก็คือ “ถ้าวิ่งเลยเส้นบนขึ้นแล้วก็เตรียมขายตอนตัดลง” เพราะราคาจะตกแล้ว......... ในอีกทางนึง“ถ้าตัดเส้นล่างลงก็เตรียมซื้อตอนมันตัดเส้นล่างขึ้น” เพราะราคาจะขึ้น (อย่าเพิ่งยิ้มคับ มันไม่ง่ายขนาดนั้น ไม่งั้นคนเขารวยกันทั้งบ้านทั้งเมืองแล้ว)



          ตัวที่สอง คือ RSI....ตัวนี้จะเทียบเป็นหัวหน้ารปภ.ละกันครับ  ที่เทียบอย่างนั้นเพราะมีหลายครั้งที่รปภ.เตือนแต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วนหัวหน้ารปภ.จะมีความหนักแน่นกว่าครับ ถ้าเขาบอกว่าอันตรายก็ให้เอะใจได้เลย....ตามหลักจริงๆแล้ว RSI ก็คือ เครื่องมือคอยเตือน “เขตซื้อมากเกิน” และ “เขตขายมากเกิน” นั่นแหล่ะครับ  (ส่วนใหญ่นักเทรดจะใช้ตัวนี้ในการทำกำไร เพราะไม่ไวเกินไปและไม่ช้าเกินไป) สรุปวิธีดูก็คือ “ถ้าตัดเส้นบนเมื่อไหร่ก็เตรียมขายทิ้งครับ เพราะเข้าเขตซื้อกันมากเกินไป” และ “ถ้าตัดเส้นล่างลง ก็จ้องไว้เลยครับรอซื้อเก็บ เพราะเข้าเขตขายกันมากเกินไป”.....หุ้นมันก็เป็นอย่างงี้แหล่ะครับ วิ่งกันตามอุปสงค์,อุปทาน ของตลาด  เอาเป็นว่าเชื่อกราฟเถอะครับ บางคนที่ติดดอยเพราะเห็นๆอยู่มันขึ้นสูงปรี๊ดแล้วยังจะมา “ขออีกหน่อย” ก็อยู่รอมันขึ้นมารับรอบต่อไปละกันครับ (. .”)


          ตัวที่สาม คือ MACD...ตัวนี้นี่เทียบเท่ากับมือขวาหรือบอดี้การ์ดประจำตัวก็ว่าได้  บอกว่าลงเมื่อไหร่เดี๋ยวไม่นานเจ้านายก็ต้องลงครับ (แต่ไม่ใช่ไม่มีนะคับ กรณีที่สั่งลง สั่งลง ท้ายสุดเจ้านายตวาดคำเดียวก็กลับขึ้นซะงั้น พวกเจ้านายประเภทกำลังภายในเยอะน่ะครับ เช่น AIS อุ๊บบบส์)....ราคาหุ้นดูเหมือนจะฟังตัวนี้มากที่สุดครับ ลองสังเกตุดู  บางครั้ง MACD หักลงแล้ว แต่ราคายังขึ้นต่อ ไม่ต้องงงครับ ไม่นานเกินรอราคาหุ้นลงตามแน่นอนครับ ส่วนไอ้ที่ผมบอกกำลังภายในเยอะ ทางเทคนิคเขาเรียกกันว่า Chart Clear Divergence ตัวมันเองครับ บางทีสวนทางกันเช่น MACDลง ราคาดันขึ้นต่อ....พอซักพัก MACD ก็หักหัวขึ้นตามราคาซะงั้น ส่วนใหญ่จะเป็นตัวแรงๆน่ะครับ อย่างที่บอกกำลังภายในเค้าเยอะ ปล่อยของกันจนกว่าแรงจะหมดนั่นแหล่ะคับ ถึงกลับมาตามคนสนิท 555


          สุดท้ายท้ายสุด คือ กราฟราคาหุ้นน่ะครับ ตัวนี้เป็น BOSS ใหญ่  เราจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรเราก็ต้องสังเกตุจากสีหน้าเขาเองครับ ไม่ว่าจะจากแท่งเทียน  หรือรูปแบบการขึ้นลงของเขาน่ะครับ (อันนี้คุยกันเรื่องยาวครับ ไว้มีเวลาจะเอาตัวอย่างหลายๆรูปมาลงให้ดู) ถ้าดูไม่ออกก็ให้ดูคนรอบๆตัวเขาที่กล่าวมาแล้วทั้ง 3คนครับ....แต่ในกราฟนี้ถ้าเราเอานู่นเอานี่มาแต่งตัวให้เขา เราก็ดูเขาออกนะครับ เช่น EMA25(สีน้ำเงิน), EMA50(สีเลือดหมู) ถ้าเส้น 25 ตัดเส้น 50ลงก็ให้ขาย  ถ้าตัดขึ้นก็ให้ซื้อ...เล่าให้ฟังแค่นี้ก่อนละกันครับ อย่างที่บอกแหล่ะครับ ถ้าเล่าจบในหน้าเดียวได้ คนเขาก็รวยกันทั้งบ้านทั้งเมืองแล้วครับ555

          ปล. กราฟพวกนี้เป็นเพียงข้อมูลที่ผ่านมาแล้วนะครับ (จะผ่านมากี่ชม./กี่วัน..ก็ต้องแล้วแต่เรา update กัน แต่ผมว่าupกันเป็นวันต่อวันก็ถี่แล้วนะ ถ้าเราไม่ได้เทรดเป็นอาชีพหลัก) จึงนำมาสรุปพล็อตเป็นกราฟได้ พูดง่ายๆแค่จะบอกว่ามันเป็นแค่Trend น่ะครับ แต่มันก็บอกอะไรเราได้เยอะ เอาเป็นว่าเชื่อได้เกือบ80%เลยก็แล้วกัน ไม่งั้นเขาจะรวยกันทั้งบ้านทั้งเมืองเหรอครับ555....แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้าครับ