วันพุธที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2555

    “อยากเล่นหุ้น”เป็นต้องทำยังไง..ตอบกันง่ายๆเลยนะครับ ต้องศึกษาและมีเครื่องมือครับ



          นี่เป็นเพียงหนึ่งตัวอย่างของกราฟที่รังสรรค์มาจากโปรแกรม METASTOCK ครับ..อย่าเพิ่งออกอาการงงกันครับ จริงๆกราฟพวกนี้เหมือนเพศตรงข้ามที่เราเพิ่งรู้จักนั่นแหล่ะครับ เจอกันใหม่ๆจับต้นชนปลายไม่ถูก ใครที่ยังไม่เคยเห็นกราฟแบบนี้  พอเห็นครั้งแรกก็ต่างมุมมองกันไป บางคนก็ดูว่ากราฟนี้สวย บางคนว่ามันดูลึกลับน่าค้นหา บางคนหนักเข้าก็ว่าดูซับซ้อนไม่น่าคบ แต่ถ้าลองรู้จักหรือได้คบกันไปนานๆแล้วจะเห็นว่า เขาหรือเธอคนนี้ปากตรงกับใจมากนะครับ คิดยังไงก็บอกอย่างนั้น แต่จะเกิดเรื่องก็ต่อเมื่อเราตีความหมายผิดเอง ถึงบอกไงครับว่าบางคนชอบก็คบต่อ  บางคนไม่เข้าใจเธอก็เลิกคบ โดยไม่มองว่าจริงๆแล้วปัญหาอยู่ที่ตัวเองซะมากกว่า เหอๆ

          กลับมาที่โปรแกรม METASTOCK ต่อครับ  จะบอกว่าโดยหลักๆแล้ว หุ้นหนึ่งตัวเราก็จะเรียกดูกราฟอยู่ 3-4กราฟครับ  อย่างหุ้นตัวนี้ CSL “บริษัท ซีเอส ล็อกซอินโฟ จำกัด (มหาชน)” จริงๆมันเอ่ยชื่อได้มั้ยเนี่ย(-..-“) (ไม่ค่อยรู้เรื่องกฎหมายคับ รู้จักแต่กดซื้อกดขาย..เอ้า!นอกเรื่องอีกละ)มาต่อกันครับ....Chart บนสุด เรียกว่า Stochastic ครับ.. ถัดลงมาก็ RSI..ถัดลงมาอีกก็ MACD ส่วนล่างสุดก็ กราฟราคาของหุ้นCSLนั่นแหล่ะครับ
      คราวนี้จะมาบอกความสัมพันธ์ของทั้ง 4 ตัวให้ฟัง 



          ตัวแรกเรียกสั้นๆว่า Stoch ละกันคับ....ตัวนี้เนี่ยจะมีความรู้สึกไวมาก ถ้าให้เทียบก็เหมือนพวกรปภ.รอบๆบ้านเรานั่นแหล่ะครับ ส่งสัญญาณเตือนกันไวมาก เห็นคนชุมนุมกลุ่มใหญ่ๆเดินมาตามถนนก็เตือนแล้ว “เตรียมอพยพครับนาย”(ขายหุ้นทิ้ง) พอซักพักก็ “ผ่านไปกันหมดแล้วปลอดภัยแล้วครับนาย”(ก็ซื้อหุ้นกลับ)  เหมาะจะใช้เป็นสัญญาณเตือนซื้อ-ขาย ระยะสั้นหรือปานกลาง จนบางครั้งทำให้เราซื้อขายกันไวเกินไป สรุปก็คือ “ถ้าวิ่งเลยเส้นบนขึ้นแล้วก็เตรียมขายตอนตัดลง” เพราะราคาจะตกแล้ว......... ในอีกทางนึง“ถ้าตัดเส้นล่างลงก็เตรียมซื้อตอนมันตัดเส้นล่างขึ้น” เพราะราคาจะขึ้น (อย่าเพิ่งยิ้มคับ มันไม่ง่ายขนาดนั้น ไม่งั้นคนเขารวยกันทั้งบ้านทั้งเมืองแล้ว)



          ตัวที่สอง คือ RSI....ตัวนี้จะเทียบเป็นหัวหน้ารปภ.ละกันครับ  ที่เทียบอย่างนั้นเพราะมีหลายครั้งที่รปภ.เตือนแต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วนหัวหน้ารปภ.จะมีความหนักแน่นกว่าครับ ถ้าเขาบอกว่าอันตรายก็ให้เอะใจได้เลย....ตามหลักจริงๆแล้ว RSI ก็คือ เครื่องมือคอยเตือน “เขตซื้อมากเกิน” และ “เขตขายมากเกิน” นั่นแหล่ะครับ  (ส่วนใหญ่นักเทรดจะใช้ตัวนี้ในการทำกำไร เพราะไม่ไวเกินไปและไม่ช้าเกินไป) สรุปวิธีดูก็คือ “ถ้าตัดเส้นบนเมื่อไหร่ก็เตรียมขายทิ้งครับ เพราะเข้าเขตซื้อกันมากเกินไป” และ “ถ้าตัดเส้นล่างลง ก็จ้องไว้เลยครับรอซื้อเก็บ เพราะเข้าเขตขายกันมากเกินไป”.....หุ้นมันก็เป็นอย่างงี้แหล่ะครับ วิ่งกันตามอุปสงค์,อุปทาน ของตลาด  เอาเป็นว่าเชื่อกราฟเถอะครับ บางคนที่ติดดอยเพราะเห็นๆอยู่มันขึ้นสูงปรี๊ดแล้วยังจะมา “ขออีกหน่อย” ก็อยู่รอมันขึ้นมารับรอบต่อไปละกันครับ (. .”)


          ตัวที่สาม คือ MACD...ตัวนี้นี่เทียบเท่ากับมือขวาหรือบอดี้การ์ดประจำตัวก็ว่าได้  บอกว่าลงเมื่อไหร่เดี๋ยวไม่นานเจ้านายก็ต้องลงครับ (แต่ไม่ใช่ไม่มีนะคับ กรณีที่สั่งลง สั่งลง ท้ายสุดเจ้านายตวาดคำเดียวก็กลับขึ้นซะงั้น พวกเจ้านายประเภทกำลังภายในเยอะน่ะครับ เช่น AIS อุ๊บบบส์)....ราคาหุ้นดูเหมือนจะฟังตัวนี้มากที่สุดครับ ลองสังเกตุดู  บางครั้ง MACD หักลงแล้ว แต่ราคายังขึ้นต่อ ไม่ต้องงงครับ ไม่นานเกินรอราคาหุ้นลงตามแน่นอนครับ ส่วนไอ้ที่ผมบอกกำลังภายในเยอะ ทางเทคนิคเขาเรียกกันว่า Chart Clear Divergence ตัวมันเองครับ บางทีสวนทางกันเช่น MACDลง ราคาดันขึ้นต่อ....พอซักพัก MACD ก็หักหัวขึ้นตามราคาซะงั้น ส่วนใหญ่จะเป็นตัวแรงๆน่ะครับ อย่างที่บอกกำลังภายในเค้าเยอะ ปล่อยของกันจนกว่าแรงจะหมดนั่นแหล่ะคับ ถึงกลับมาตามคนสนิท 555


          สุดท้ายท้ายสุด คือ กราฟราคาหุ้นน่ะครับ ตัวนี้เป็น BOSS ใหญ่  เราจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรเราก็ต้องสังเกตุจากสีหน้าเขาเองครับ ไม่ว่าจะจากแท่งเทียน  หรือรูปแบบการขึ้นลงของเขาน่ะครับ (อันนี้คุยกันเรื่องยาวครับ ไว้มีเวลาจะเอาตัวอย่างหลายๆรูปมาลงให้ดู) ถ้าดูไม่ออกก็ให้ดูคนรอบๆตัวเขาที่กล่าวมาแล้วทั้ง 3คนครับ....แต่ในกราฟนี้ถ้าเราเอานู่นเอานี่มาแต่งตัวให้เขา เราก็ดูเขาออกนะครับ เช่น EMA25(สีน้ำเงิน), EMA50(สีเลือดหมู) ถ้าเส้น 25 ตัดเส้น 50ลงก็ให้ขาย  ถ้าตัดขึ้นก็ให้ซื้อ...เล่าให้ฟังแค่นี้ก่อนละกันครับ อย่างที่บอกแหล่ะครับ ถ้าเล่าจบในหน้าเดียวได้ คนเขาก็รวยกันทั้งบ้านทั้งเมืองแล้วครับ555

          ปล. กราฟพวกนี้เป็นเพียงข้อมูลที่ผ่านมาแล้วนะครับ (จะผ่านมากี่ชม./กี่วัน..ก็ต้องแล้วแต่เรา update กัน แต่ผมว่าupกันเป็นวันต่อวันก็ถี่แล้วนะ ถ้าเราไม่ได้เทรดเป็นอาชีพหลัก) จึงนำมาสรุปพล็อตเป็นกราฟได้ พูดง่ายๆแค่จะบอกว่ามันเป็นแค่Trend น่ะครับ แต่มันก็บอกอะไรเราได้เยอะ เอาเป็นว่าเชื่อได้เกือบ80%เลยก็แล้วกัน ไม่งั้นเขาจะรวยกันทั้งบ้านทั้งเมืองเหรอครับ555....แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้าครับ

7 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ9 เมษายน 2555 เวลา 19:40

    ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ23 พฤษภาคม 2555 เวลา 01:41

    Very informative มากค่า. อยากให้เขียนอีกแนวนี้อีกกระชับและเข้าใจง่ายให้ดีช่วยบอกชื่อเต็มของgrapด้วยนะคะเผื่อจะเข้าใจขึ้นอยากไปเรียนกะคุณจังแต่ติดภารกิจเลี้ยงลูกอ่อนอีก6เดือนเจอกัน

    ตอบลบ
  3. มือใหม่ สนใจลงทุน14 สิงหาคม 2555 เวลา 20:05

    อ่านจบแล้วพอจะเข้าใจตามได้ครับ แต่ว่าทำไมมองไม่เห็นกร๊าฟอย่างที่ว่า มันเป็นเพียงจอดำ และมีรูปสามเหลี่ยม ข้างในเป็นเคริ่องหมายตกใจ

    ตอบลบ
  4. มือใหม่ สนใจลงทุน15 สิงหาคม 2555 เวลา 06:34

    ตอนนีั้มัน OK แล้วครับ มองเห็นกราฟแล้ว ผมเองเบื้องต้นก็ชอบแนวVI แต่อีกใจก็อยากศึกษาทาง Technical ควบคู่ไปด้วย แบบว่าผสมผสานกันไป ตามแนวที่คุณแมนทำอยู่

    ตอบลบ
  5. ผมเลี้ยงชีพด้วยการเทรด ไม่มีอาชีพเสริมอื่นครับ ดังนั้นจึงต้องรอบคอบแม้ขณะที่เข้าเก็งกำไร ei ei(^^)

    ตอบลบ
  6. ไม่ระบุชื่อ10 ธันวาคม 2555 เวลา 22:54

    เพิ่งเริมศึกษาค่ะ ไม่มีความรู้เกี่ยวกับหุ้นจะอยากไปไหมค่ะ

    ตอบลบ
  7. มีคนบอกมั๊ยคะ ว่าพื้นสีแดงอ่านแล้วตาลายค่ะ อิอิ แต่ก็ขอบคุณนะคะที่ให้ความรู้

    ตอบลบ